Language :

น้ำมันมะพร้าวกับเชื้อโรคอันชาญฉลาด

khjuk

nature mind

www.coconut-virgin.com

          

          เมื่อเรารับประทานน้ำมันมะพร้าวเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนกรดไขมันของน้ำมันมะพร้าวให้เป็นเสมือนโรงไฟฟ้าที่ทรงอานุภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ แม้แต่เชื้อโรคที่ชาญฉลาดก็ตามมันก็จะอ่อนแอลงและยอมแพ้ต่อคุณค่าต่างๆที่ได้จากน้ำมันมะพร้าว ลักษณะที่สำคัญของน้ำมันมะพร้าวก็คือ สามารถเป็นอาหารที่ใช้ในการต่อต้านกับเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ เชื้อไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัวได้

        กรดไขมันที่ได้จากขบวนการ Hydrolysis และพบในรูปกลีเซอไรต์ในไขมันสัตว์และน้ำมันพืชมีความจำเป็นต่อร่างกายของเรา เราต้องใช้มันเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อและฮอร์โมนต่างๆในร่างกายของเรา เซลล์ทุกๆเซลล์ในร่างกายจำเป็นต้องได้รับกรดไขมันนั้นอย่างเพียงพอเพื่อที่จะได้ทำงานได้อย่างเหมาะสม ธรรมชาติได้จัดสรรกรดไขมันดังกล่าวลงไปในอาหารที่พวกเรารับประทานเข้าไปก็เพื่อเหตุผลนี้ ร่างกายของคุณจะจดจำและรู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร MCFAs เป็นกรดไขมันตามธรรมชาติที่ร่างกายของเรารู้ว่าควรจะใช้มันอย่างไรให้เกิดประโยชน์ มันไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่พวกเรา แต่มันจะหยิบยื่นความตายให้กับเชื้อโรคอย่างแน่นอน

        เชื้อแบคทีเรียและไวรัสส่วนใหญ่จะถูกห่อหุ้มด้วยไขมันต่างๆ กรดไขมันเหล่านั้นที่ซึ่งจะเสริมสร้างให้เกิดผิวหนังชั้นนอกของพวกมัน จะปรากฏว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิต หรือส่วนประกอบเซลล์อื่นๆติดมาด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่เหมือนผิวหนังของมนุษย์อย่างเราที่ค่อนข้างจะเหนียวและเนื้อเยื่อของเชื้อโรคเหล่านั้นก็จะยึดติดได้ยาก กรดไขมันในเนื้อเยื่อจะจับตัวกันอย่างหลวมๆเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวหรือยืดหยุ่นได้อย่างน่าทึ่ง ลักษณะเฉพาะตัวนี้จะทำให้สิ่งมีชีวิตเล็กๆมากมายสามารถเคลื่อนไหว โค้งงอ และบีบรัดได้ผ่านทางรูเล็กๆของผิวหนัง

        เชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ถูกห่อหุ้มด้วยไขมันสามารถถูก MCFAs ฆ่าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งในตอนแรก MCFAs จะทำลายสิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านี้ กรดไขมันที่เป็น Medium-chain นี้แหละที่มีคุณลักษณะเหมือนกับผิวหนังของสิ่งมีชีวิตเล็กๆจะถูกดึงดูดและดูดซึมเข้ามาได้ง่าย ไม่เหมือนกรดไขมันอื่นๆในผิวหนัง เพราะ MCFAs จะมีขนาดเล็กกว่ามาก ฉะนั้นจะทำให้ผิวหนังของสิ่งมีชีวิตเล็กๆนั้นลื่นไหลและหายไป สิ่งมีชีวิตจะลื่นออกจากรูของผิวหนังของเราและถูกฆ่าในที่สุด เซลล์เม็ดเลือดขาวของพวกเราจะทำความสะอาดและกำจัดซากของมันอย่างรวดเร็ว MCFAs จะฆ่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่บุกรุกเหล่านั้นโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่เนื้อเยื่อของเรา

        ร่างกายของเรามีวิธีหลายวิธีที่จะจัดการกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อันตรายเหบ่านั้น ตัวอย่างเช่นกรดเข้มข้นที่ถูกขับออกมาทางท้องของพวกเราได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่พวกเราอาจจะเผลอกินมันเข้าไปพร้อมอาหารภายในกระแสเลือดของเรา สิ่งมีชีวิตเล็กๆจำนวนมากจะถูกโจมตีและถูกฆ่าด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาว แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการแรกของร่างกายที่จะต่อต้านกับสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่อันตรายก็คือผิวหนังของเรานี่แหละ หากสิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านั้นจะทำให้ร่างกายของเราเกิดอันตราย สิ่งแรกที่พวกมันจะทำก็คือ การแทรกซึมผ่านสิ่งที่ปกป้องผิวหนังของเราก่อน และในขณะที่ผิวหนังของเราสามารถซึมซับน้ำเข้าไปได้บางส่วน น้ำเหล่านั้นก็จะกลายเป็นอาวุธทางเคมีในการช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไป และหนึ่งในอาวุธทั้งหลายก็คือน้ำมันที่ผลิตโดยต่อมไขมันที่ขับไขมันออกมาเพื่อช่วยหล่อลื่นขนและผิวหนังของเรา ต่อมไขมันดังกล่าวจะถูกพบได้ที่บริเวณใกล้ๆกับรากผมแต่ละเส้น น้ำมันนี้จะช่วยให้ผมและผิวของเราลื่น จนบางคนได้อธิบายน้ำมันนี้ในลักษณะของ “ครีมทาผิวที่เกิดจากธรรมชาติ” เพราะว่ามันสามารถป้องกันไม่ให้ผิวแตกหรือแห้งกร้าน อีกทั้งมันยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญมาก ซึ่งก็คือมันได้บรรจุกรดไขมัน Medium-chain เพื่อต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่บุกรุก ชั้นบางๆของน้ำมันบนผิวหนังเราจะช่วยป้องกันเราจากเชื้อโรคที่อันตรายจำนวนมากที่เข้ามาในแต่ละวัน

        นอกจากจะมีประโยชน์ต่อผิวหนังของเราในการป้องกันเราจากเชื้อโรคต่างๆแล้ว MCFAs ยังถูกพบในน้ำนมมารดาอีก ดังนั้น MCFAs จึงไม่เพียงแต่เสริมสร้างสารอาหารให้กับทารกน้อย แต่ยังสามารถปกป้องทารกจากอันตรายได้ในขณะเดียวกัน MCFAs ไม่ใช่ยาพิษและไม่ก่อให้เกิดสารที่เป็นพิษขึ้นในร่างกาย มันเป็นสารที่ปลอดภัยและได้จากธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ Jon J. Kabara นักวิจับสารประกอบอินทรีย์ซึ่งมีไขมันเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายซึ่งกล่าวถึงความปลอดภัยอันเกิดจากการใช้กรดไขมันในการรักษา พูดว่า “กรดไขมันและสิ่งอื่นๆที่แฝงไปด้วยกรดไขมันจัดเป็นสารเคมีที่อันตรายน้อยที่สุดแก่มนุษย์ มันไม่เพียงไม่ทำอันตรายแก่ร่างกายมนุษย์ แต่มันยังเป็นอาหารชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการ สุขภาพ และการเจริญเติบโตของมุนษย์อีก”

       ในขณะที่ MCFAs อย่างเช่น กรด caprylic และ capric จะมีลักษณะเด่นในการต่อต้านกับเชื้อโรคต่างๆรวมไปถึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่น่ากลัวต่างๆตามมา รวมถึงกรด lauric ยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการในการต่อต้านเชื้อไวรัสได้อย่างยอดเยื่ยมอีก และน้ำมันมะพร้าวก็ประกอบไปด้วยกรด lauric คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (กรดไขมันอิ่มตัว 10-chain) กรด caprylic ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ (กรดไขมันอิ่มตัว 8-chain) และกรด caproic ประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ (กรดไขมันอิ่มตัว 6-chain) ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้ได้รวมคุณค่าอยู่ในน้ำมันมะพร้าวเพื่อให้น้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์มนการต่อต้านกับเชื้อโรคต่างๆได้อย่างอัศจรรย์ อีกทั้งในน้ำมันมะพร้าวนี้ยังไม่มีปรากฎว่ามีน้ำมันจากพืชและสัตว์แฝงอยู่เลยยกเว้นมันจากเนย

 

ดเด่

 

ที่มา: The Coconut Oil Miracle โดย  Bruce Fife, C.N., N.D. หน้า 63 - 65


Validate the code with the W3C Validate the code with the W3C Link Exchange